ต้องมีรายได้เท่าไหร่ ถึงจะออกรถได้?
อีกหนึ่งคำถาม ยอดฮิต ของคนอยากมีรถ ที่ผมถูกถามเป็นประจำ ซึ่งถ้าจะให้ตอบตรงๆเลย คงต้องบอกว่า รายได้ขั้นต่ำ สำหรับการออกรถนั้น ไม่มีกำหนดไว้ครับ เพราะเวลาที่ไฟแนนซ์ เขาพิจารณา เขาจะคำนวณจาก รายได้ หักภาระหนี้สิน แล้วถึงจะมาดูว่า ค่างวดนั้น เหมาะสมกับรายได้ของลูกค้าหรือไม่
แล้วค่างวดที่เหมาะสมกับรายได้คือเท่าไหร่?
สำหรับรายได้ที่เหมาะสมนั้น ส่วนตัวผมเองแนะนำว่าควรจะอยู่ที่ 2 หรือ 2.5 เท่าของค่างวดเป็นอย่างน้อยครับ ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้านั้นมีโอกาสผ่านเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อได้มากขึ้น และ เพื่อให้ค่างวดรถนั้นไม่เป็นภาระที่หนักเกินไปในอนาคตครับ
แล้วจะรู้ได้ยังไงก็รายได้เราถึง 2 หรือ 2.5 เท่าของค่างวดหรือเปล่า?
สำหรับวิธีคำนวณนั้น ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากครับ เริ่มจากเอา รายได้ ลบ ภาระหนี้สิน เท่ากับ ได้เท่าไหร่ก็ เอามา หาร 2 หรือ 2.5 ผลก็คือตัวเลขของค่างวดที่เหมาะสมกับเราครับ
หรือจะเอาค่างวดเป็นตัวตั้ง และ คูณด้วย 2 หรือ 2.5 เมื่อได้ตัวเลข แล้วเราก็เอามาเทียบกับรายได้ของเรา ก็ได้ครับ
ยกตัวอย่าง
นาย A เงินเดือน 50,000 บาท/เดือน มีภาระผ่อนบ้าน 15,000 บาท/เดือน ค่างวดรถที่เหมาะสมสำหรับนาย A ควรจะอยู่ที่เท่าไหร่?
วิธีคิด
(รายได้ของนาย A) 50,000 - (ภาระหนี้สิน) 15,000 = (รายได้คงเหลือของนาย A) 35,000
จากนั้นนำมา หาร 2 หรือ 2.5 เราจะได้ค่างวดรถที่เหมาะสมสำหรับนายเอ คือ 17,500 บาท(2 เท่า) หรือ 14,000 บาท(2.5 เท่า) ตามลำดับ
(50,000 - 15,000 = 35,000 ÷ 2 หรือ 2.5 = 17,500 และ 14,000)
นั่นหมายความว่าหากนาย A ต้องการจะซื้อรถซักคัน ค่างวดที่เหมาะสมของนาย A ควรจะอยู่ที่ 14,000 - 17,500 บาท/เดือนครับ
ตัวอย่างที่ 2
นาย B เงินเดือน 30,000 บาท/เดือน ไม่มีภาระหนี้สิน นาย B ไปดูรถไว้หนึ่งคัน ค่างวดอยู่ที่ 12,000 บาท/เดือน รายได้ของนาย B เหมาะสมที่จะผ่อนรถคันนี้ไหม?
วิธีคิด
(ค่างวดรถ) 12,000 × 2 หรือ 2.5 =(รายได้ที่เหมาะสมสำหรับผ่อนรถ) 24,000 บาท(2 เท่า) และ 30,000 บาท (2.5 เท่า)
(12,000 ×2 หรือ 2.5 = 24,000 และ 30,000)
ฉะนั้นเมื่อเรามาดูรายได้ของนาย B คือ 30,000 บาท/เดือน แปลว่า นาย B มีรายได้ที่เหมาะสมสำหรับการผ่อนรถคันนี้ครับ
ถ้ามีรายได้เกิน 2 หรือ 2.5 เท่าของค่างวด จะผ่านไฟแนนซ์เลยไหม?
เรื่องของเกณฑ์การอนุมัตินั้น ไฟแนนซ์เขาดูจากหลายปัจจัยครับ เรื่องรายได้นั้นถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะไฟแนนซ์ก็พิจารณาปัจจัยอื่นประกอบด้วยครับ เช่น ประวัติเครดิต (NCB) ที่มาของรายได้ อายุงาน เป็นต้นครับ
สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอก ปัจจุบันมีโปรโมชั่นออกรถดีๆ ยั่วใจมากมายครับ ไม่ว่าจะ ดาวน์เริ่มต้นแค่ไม่กี่พัน หรือ แม้กระทั่งฟรีดาวน์กันไปเลย
แต่อย่าลืมว่ารถคันหนึ่ง ไม่ได้มีแค่เงินดาวน์ กับ ค่างวดครับ ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆตามมาอีก เช่น ค่าน้ำมัน ประกันภัย ภาษีประจำปี ค่าดูแลรักษา เป็นต้น
ฉะนั้นก่อนตัดสินใจ ผมอยากฝากว่าควรคิดให้รอบคอบก่อนครับ อย่าเห็นแก่โปรโมชั่นตอนออกรถ แต่อยากให้ลองคำนวณค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
เงินเก็บที่เรามี รวมถึงความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วยครับ.
อยากออกรถแต่ยังงงๆอยู่ นึกถึง อาร์ม TGA222
ยินดีให้คำปรึกษาฟรี ออนไลน์ 24ชม
เครดิต: เพจ
เครดิต : เพจกระตุกหนวดเซ